วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โครงการบ้านมั่นคงเมืองอรัญประเทศ

ประกอบไปด้วย 4 ชุมชน คือ บริเวณด่าน มิตรสัมพันธ์ ตลาด และ หน้าโรงไฟฟ้า เริ่มดำเนินการประมาณเดือนตุลาคม 2547 เกิดจากชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ริมทางรถไฟอําเภออรัญประเทศได้มีการรวมกลุ่มเพื่อเจรจาลดค่าที่ดินรถไฟซึ่งต้องร่วมโครงการบ้านมั่นคง จนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 ทางชุมชนบริเวณด่านได้จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์มีสมาชิกแรกตั้ง 124 คน และมีการออมมาจนกระทั่งหกเดือนทางกลุ่มเริ่มมีความไม่มั่นใจทำให้มีการชะลอการออม จึงได้มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านมั่นคงที่ชุมชนตลาดเวฬุวัน และชุมชนหน้าโรงไฟฟ้าจนกระทั่งเดือนกันยายน 2548 ชุมชนหน้าโรงไฟฟ้าได้มีการจัดตั้งกลุ่มออม และชุมชนตลาดใหม่ได้ตั้งกลุ่มออมในเดือนตุลาคม 2548 ต่อมาชุมชนมิตรสัมพันธ์ได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงทำให้ผืนในการพัฒนาเป็นผืนเดียวกันและร่วมกันจัดตั้งสหกรณ์เคหสถานในเดือนพฤศจิกายน ชื่อ “สหกรณ์เคหสถานชุมชนเมืองอรัญประเทศ” เดือนธันวาคม 2548 ได้รวมกันเป็นเครือข่ายชุมชนเมืองอรัญประเทศ และเดือนมกราคม 2548 ได้รวมกลุ่มออมทรัพย์เป็นระบบเครือข่ายออมทรัพย์ชื่อ “เครือข่ายออมทรัพย์ชุมชนเมืองอรัญประเทศ” ซึ่งถือเป็นองค์กรการเงินขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการช่วยเหลือชาวชุมชน จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 การรถไฟได้มีแผนพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ โดยมีแผนพัฒนาทั้งผืนและพื้นที่ที่ชุมชนเช่าหรือบุกรุกอยู่นั้น อยู่ในแผนการพิจารณากรรมสิทธิ์ที่ดิน และพิจารณาการเช่า ทำให้ชุมชนเร่งทำแผนเพื่อเสนอการปรับปรุงโดยการรถไฟให้การสนับสนุนในเรื่องของการวางแผนและวางผังการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน

สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการ
1.ที่ดินเป็นที่ดินเช่าและบุกรุกทั้งชุมชน
2.สภาพความแออัดของบ้านและปัญหาที่ตามมาจากการเกิดชุมชนแออัด เช่น ยาเสพติด

สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการ แยกเป็น
กลุ่มบุกรุก 18 ครัวเรือน
กลุ่มเช่าที่ดิน 302 ครัวเรือน

การพิจารณาสิทธิการอยู่อาศัย
1.เป็นผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยจริง
2.เป็นผู้อยู่ในชุมชนนั้นจริง
3.รักสงบไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
4.ให้กลุ่มออมทรัพย์รับรองสมาชิกที่เดือดร้อนของตนเอง
5.เป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ที่ดี ออมสม่ำเสมอสำหรับผู้
6.ลำดับการพิจารณากลุ่มบ้านเช่ามีดังนี้ กลุ่มที่ 1อยู่มานานกว่า10ปี, กลุ่มที่ 2ผู้ที่อยู่ 5-10, กลุ่มที่ 3ผู้ที่อาศัย2-10ปี

เกณฑ์การอยู่ร่วมกันในอนาคต
1.ห้ามจองที่ดินเอาไว้เฉยๆเพื่อทำกำไรมิฉะนั้นจะยึดสิทธิ์ให้กับผู้เดือดร้อนลำดับถัดไป
2. ผู้ร่วมโครงการหลังจากที่ได้เช่าที่แล้วห้ามโอนขายสิทธิ์โดยพลการมิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ให้กับผู้เดือดร้อนในลำดับถัดไป
3.การไปอยู่ร่วมกันในชุมชนใหม่จะต้องมีคณะกรรมการในการบริหารดูแลชุมชนทั้งในเรื่องออมทรัพย์ การซื้อขายสิทธิ์และอื่นๆ
4.ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องยึดเกณฑ์กลางการอยู่อาศัยร่วมกันของชุมชนเป็นหลักและต้องทำข้อตกลงการอยู่อาศัยร่วมกันก่อนการเช่าที่หากมีการฝ่าฝืนถือว่าผิดข้อตกลงของสหกรณ์จะไม่รับรองสถานะพื้นที่ที่ผิดสัญญาซึ่งผู้ที่ผิดสัญญาจะต้องเจรจากับการรถไฟเป็นส่วนบุคคล
5.การเช่าที่และการปรับปรุงชุมชนจะต้องมีรายชื่อสมาชิกครอบครัวพื้นที่การเช่าที่เป็นที่อยู่อาศัยจริงส่งมาที่คณะกรรมการเครือข่ายเมืองเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่อป้องกันการผิดสัญญา